ภาวะตัวเหลืองในทารก เกิดขึ้นจากระดับ บิลิรูบิน ในเลือดสูงเกินกว่าปกติ ซึ่งบิลิรูบินเป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงปริมาณมาก เกินกว่าที่ตับและไตของทารกแรกเกิดจะกำจัดได้ทัน
มีค่ะ สามารถตรวจดูโดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กดที่ผิวหนังพร้อมกับแยกออกจากกันเพื่อรีดเลือดออกจากหลอดเลือดฝอยบริเวณที่จะตรวจ เช่น หน้าผาก หน้าอก แขน และขา ควรตรวจในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ สังเกตสี ปกติจะเห็นเป็นสีขาว แต่ถ้าเห็นเป็นสีเหลือง โดยเฉพาะถ้าเหลืองถึงท้องควรรีบพบแพทย์
หากเป็นภาวะตัวเหลืองในทารกแบบปกติจะไม่อันตรายและหายเองได้ใน 2-3 วันค่ะ แต่หากเป็นภาวะตัวเหลืองแบบผิดปกติในระยะยาวจะส่งผลกระทบรุนแรงถึงการทำงานของสมองได้เลยค่ะ
เมื่อลูกเริ่มมีอาการตัวเหลืองควรติดต่อแพทย์เพื่อประเมิณอาการเบื้องต้น หากลูกมีอาการตัวเหลืองมาก อาการเพิ่มขึ้นเร็ว มีสีอุจจาระซีดลง หรือปัสสาวะสีเหลืองเข้มมากหรือเป็นสีน้ำปลา และมีไข้ ซึม ไม่ดูดนม ท้องอืด เกร็ง หรือชัก อย่างใดอย่างหนึ่งดังที่กล่าวมา ควรรีบพาไปพบแพทย์ในทันที
ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด (Newborn Jaundice) เกิดจากการที่ร่างกายมีสารสีเหลืองที่เรียกว่า บิลิรูบิน (Bilirubin) ในกระแสเลือดมากกว่าปกติ ซึ่งบิลิรูบินเกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงผ่านกระบวนการที่ตับและขับออกจากร่างกายผ่านทางอุจจาระและปัสสาวะ ทั้งนี้ทารกแรกเกิดมีความเสี่ยงต่อภาวะตัวเหลืองมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากมีเม็ดเลือดแดงมากกว่าผู้ใหญ่ และเมื่อเม็ดเลือดแดงแตกสลาย บิลิรูบินที่เกิดจากการสลายตัวจึงมีปริมาณมากเกินกว่าที่ตับและไตของทารกแรกเกิดจะกำจัดได้ทันส่งผลให้เกิด ภาวะตัวเหลืองในทารก ได้
สีผิวแสดงอาการภาวะตัวเหลืองในเด็ดทารกแรกเกิด
พบได้บ่อยในทารกแรกเกิดถึง 70% มักเริ่มมีอาการตัวเหลืองในวันที่ 2-3 หลังคลอด และส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 3 สัปดาห์หลังคลอด
พบได้น้อยกว่าภาวะตัวเหลืองปกติ สาเหตุหลักมาจากพยาธิสภาพ (Pathologic Jaundice) ทั้งนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีก เช่น
หากทารกมีอาการตัวเหลืองผิดปกติ ควรรีบพาทารกไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การรักษาภาวะตัวเหลืองผิดปกติขึ้นอยู่กับสาเหตุของภาวะตัวเหลือง
หากระดับบิลิรูนบินในเลือดสูงมาก จะผ่านเข้าไปจับกับเนื้อสมองด้านใน ทำให้ทารกมีอาการผิดปกติทางสมอง
คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ สามารถตรวจดูว่าลูกตัวเหลืองหรือไม่ได้ง่ายๆ เพียง ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กดที่ผิวหนังพร้อมกับแยกออกจากกันเพื่อรีดเลือดออกจากหลอดเลือดฝอยบริเวณที่จะตรวจ เช่น หน้าผาก หน้าอก แขน และขา ควรตรวจในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ สังเกตสี ปกติจะเห็นเป็นสีขาว แต่ถ้าเห็นเป็นสีเหลือง โดยเฉพาะถ้าเหลืองถึงท้องควรรีบพบแพทย์
แสดงวิธีการตรวจเชคภาวะตัวเหลืองในเด็กทารกแรกเกิด ด้วยการกดบริเวณหน้าผาก
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อ คุณแม่อาจไม่สามารถสรุปได้ว่าอาการตัวเหลืองที่เราตรวจพบนั้นมีอาการรุนแรงหรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยทันทีเมื่อมีการตรวจพบเจออาการค่ะ
เมื่อตรวจพบสาร บิลิรูบิน แล้วพบว่าค่าเกิน 10 แพทย์มักจะตัดสินใจให้ต้องทำการรักษาโดยใช้เครื่องมือแพทย์ โดยมีวิธีที่นิยม 2 วิธี แบ่งตามกรณี ดังนี้
การรักษา ภาวะตัวเหลืองในทารก ด้วยวิธีการส่องไฟ
รักษาภาวะตัวเหลืองด้วยวิธีการส่องไฟ ด้วยหลอดไฟแสงสีฟ้าชนิดพิเศษ โดยขั้นตอนการรักษานั้นจะให้ทารกนอนในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ปิดตาทารกด้วยผ้า และถอดชุดของทารกออก การรักษาด้วยวิธีการส่องไฟนั้น มีผลข้างเคียงกับทารกเล็กน้อยคือ อาจจะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำไปจากขั้นตอนการส่องไฟ ส่งผลให้ทารกนั้นมีน้ำหนักตัวที่ลดลงได้
TIP! : หลังคลอดโรงพยาบาลจะมีการตรวจค่า บิลิรูบิน และมีการติดตามค่าเป็นระยะ ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก หากมีค่าอยู่ในช่วง 10 นิดๆไม่สูงนัก โรงพยาบาลมักจะแนะนำให้เข้าส่องไฟเพื่อความปลอดภัย พ่อแม่สามารถรอดูอาการเบื้องต้น และดูแลป้องกันภาวะตัวเหลืองก่อนได้ แต่หากมีอาการมากขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
เพื่อลดระดับของ บิลิรูบิน อย่างรวดเร็วป้องกันการส่งผลกระทบต่อสมอง จะทำการถ่ายเลือดของทารกที่มีค่า บิลิรูบิน สูงออกและเติมเลือดใหม่เข้าไปทดแทน