อาการสะอึกในทารกแรกเกิด เป็นเรื่อง "ปกติ" ไม่ต้องกังวล มักเกิดขึ้นหลังกินนมหรืออาหารอิ่ม เพราะกระเพาะอาหารขยายตัวไปกดทับกะบังลม ทำให้กล้ามเนื้อกะบังลมหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเสียงคล้ายกระตุกนั่นเอง
โดยทั่วไปแล้ว อาการเด็กทารกสะอึกนั้นกินเวลาไม่นาน ประมาณ 3-5 นาที
วิธีหลักคือ พยายามทำให้ทารกเรอ เช่น อุ้มทารกให้เรอด้วยการให้ส่วนหัวพาดอยู่บนไหล่แล้วตบหลังทารกเบาๆ หรืออุ้มทารกนั่งบนตัก แล้วเอนตัวไปข้างหน้า จากนั้นใช้มือลูบหลังไล่จากเอวไปต้นคอเบาๆ อีกทั้งยังสามารถให้ทารกดูดนมแม่ก็สามารถช่วยแก้อาการสะอึกได้โดยไม่ต้องกินน้ำ
สามารถทำได้หลายวิธี เช่นแก้ไขที่ต้นเหตุ โดยการป้อนนมหรืออาหารช้าๆ หรืออาจแบ่งการป้อนเป็นหลายครั้งแทน โดยหลังจากทานนมหรืออาหาร ควรให้ทารกนั่งตัวตรงประมาณ 20 นาทีหลังจากทานเสร็จทุกครั้ง เป็นต้น
โดยปกติแล้ว อาการสะอึกในทารกแรกเกิด มักเป็นอาการปกติที่ไม่เป็นอันตรายและมักหายไปเองภายในไม่กี่นาที แต่หากลูกมีอาการสะอึกติดต่อกันนานเป็นชั่วโมง หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาเจียน หายใจลำบาก ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
สาเหตุที่เด็กทารกสะอึกได้บ่อยกว่าผู้ใหญ่เพราะว่า ทารกมีการกลืนอากาศเข้าไปขณะกินนม อาหาร หรือร้องไห้ ประกอบกับกระเพาะอาหารของทารกแรกเกิดมีขนาดเล็กและอ่อนแอ ทำให้ไม่สามารถบีบไล่อากาศออกได้ เมื่อทารกกลืนอากาศเข้าไปมาก อากาศก็จะไปกดทับกะบังลม ทำให้กะบังลมหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการสะอึกจึงเกิดขึ้นนั่นเอง
ควรรู้! : อาการสะอึกกในเด็กทารกแรกเกิดจนถึง 1 ขวบนั้นเป็นอาการปกติทั่วไปไม่เป็นอันตราย
โดยทั่วไปแล้วอาการสะอึกในเด็กทารกนั้นกินเวลาไม่นาน ราวๆ 3-5 นาที หรืออาจนานกว่านั้นได้ในเด็กบางคน หากนานกว่านั้นหรือเป็นชั่วโมง และมีอาการสะอึกนานบ่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
อาการสะอึกในทารกแรกเกิด ส่วนใหญ่มักเป็นอาการเพียงชั่วคราว ไม่เป็นอันตราย และมักหายไปเองภายในไม่กี่นาที หากทารกมีอาการสะอึก คุณพ่อคุณแม่อาจลองทำตามวิธีบรรเทาอาการสะอึกข้างต้นได้
โดยปกติแล้ว อาการสะอึกในทารกแรกเกิด มักเป็นอาการปกติที่ไม่เป็นอันตรายและมักหายไปเองภายในไม่กี่นาที แต่หากลูกมีอาการสะอึกติดต่อกันนานเป็นชั่วโมง หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาเจียน หายใจลำบาก หรือมีสัญญาณของอาการขาดออกซิเจนอย่างอาการตัวเขียว ริมฝีปากและเล็บมีสีม่วงอมฟ้า อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสม