เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลเพื่อลูกน้อย แบบกระชับเน้นเนื้อไม่เน้นน้ำ เพื่อพ่อแม่ โดยพ่อแม่ที่ขี้เกียจอ่านเยอะ
เนื้อหานี้เหมาะ
สำหรับเด็กช่วงอายุ
ตั้งแต่
แรกเกิด
จนถึง
1 ขวบ
ทารกท้องเสีย
เนื้อหานี้เหมาะสำหรับเด็กช่วงอายุ
ตั้งแต่
แรกเกิด
จนถึง
1 ขวบ

ทารกท้องเสีย อาการเป็นอย่างไร มีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง ?

เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคน เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจจะเกิดความวิตกกังวล ยิ่งเป็นปัญหาเรื่องการขับถ่ายของทารกยิ่งไปกันใหญ่ ดังนั้นบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า ทารกท้องเสียมีอาการอย่างไร ? แบบไหนถึงเรียกว่าท้องเสีย ? รวมถึงวิธีการป้องกันและรับมือกับอาการท้องเสียในทารก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ชมเนื้อหาที่น่าสนใจของเราได้เลย
สรุปคำถามสำคัญ ให้ตรงนี้แล้ว!  ถ้ารีบอ่านแค่นี้ไปดูลูกต่อได้เลย!
สรุปคำถามสำคัญ ให้ตรงนี้แล้ว!  ถ้ารีบอ่านแค่นี้ไปดูลูกต่อได้เลย!
1.

จะรู้ได้อย่างไรว่าทารกกำลังมีอาการ “ท้องเสีย” ?

ทารกที่มีอาการท้องเสีย จะมีอาการถ่ายเหลวเกินจำนวน 3 ครั้งต่อวัน และ อาจมีการถ่ายแล้วมีมูกเลือดผสมด้วย

2.

วิธีรับมือกับอาการทารกท้องเสีย ต้องทำอย่างไร ?

รักษาความสะอาดของ อาหาร เครื่องดื่มภาชนะ มือของทารก และ สิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับทารก

3.

ทารกท้องเสียอันตรายไหม ต้องหาหมอหรือเปล่า ?

หากพบว่าทารกท้องเสีย พร้อมด้วยอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ อย่าง มีมูกเลือด ถ่ายมากกว่า 10 ครั้ง/วัน เซื่องซึม อาเจียน มีไข้ ต้องรีบนำพบแพทย์โดยทันที

4.

ทารกถ่ายเหลวสีเหลือง เกิดจากอะไร ?

ในทารกแรกเกิดในช่วง 3-4 วันแรก จะถ่ายออกมาเป็นเหมือนกับฟักทองบด มีลักษณะเหลว จำนวน 6-10 ครั้งต่อวัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติดี ไม่มีอันตราย ไม่นับว่าท้องเสีย

5.

จริงไหม ? ที่ทารกท้องเสีย เป็นหนึ่งในอาการที่เด็กกำลัง “ยืดตัว” ?

“ไม่จริง” โดยเฉพาะเด็กขวบแรก การท้องเสียเกิดจากการคลาน แล้วมือมักจะไปสัมผัสกับสิ่งสกปรก จากนั้นก็นำมาเข้าปาก จนทำให้เกิดอาการท้องเสีย

จะรู้ได้อย่างไรว่า ทารกท้องเสีย อาการไหนที่สังเกตได้บ้าง ?

หากเด็กท้องเสียต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

เมื่อทารกท้องเสีย จะมีอาการที่แสดงออกอย่างชัดเจน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตเห็นได้จากพฤติกรรมบางอย่างที่เปลี่ยนไป และไม่ควรปล่อยผ่านเป็นอันขาด ซึ่งอาการของทารกเวลาท้องเสียก็จะมีดังต่อไปนี้

  •  ถ่ายบ่อยกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้วทารกจะขับถ่ายอยู่ที่ 3 ครั้ง/วัน
  • ทารกเซื่องซึม งอแง อาเจียน และ อาจมีไข้ร่วมด้วย
  • ถ่ายเหลวในลักษณะที่เป็นน้ำ บางครั้งอาจมีมูกเลือดผสมอยู่ในอุจจาระ
  • ถ่ายอย่างเดียวโดยไม่ฉี่ ปากซีด ปากแห้ง ซึ่งเกิดจากการขาดน้ำในร่างกาย

 



4 วิธีรับมือเมื่อเด็กทารกท้องเสีย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องรู้ !

หากอาการท้องเสียของลูกคุณไม่หนักมากนัก หรืออาจจะเป็นช่วงแรก ๆ ที่กำลังเฝ้าสังเกตอาการ คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือกับปัญหา “ทารกท้องเสีย” ที่มีอาการยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ซึ่งสามารถทำได้ตาม 4 วิธีดังต่อไปนี้

ต้องระวังอาการแทรกซ้อนจากอาการท้องเสีย

  1. ในกรณีที่ดื่มนมแม่ให้ดื่มต่อไปได้เลย ไม่ต้องหยุดการให้นม และควรเพิ่มปริมาณน้ำสะอาดต้มสุกเพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป
  2. เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เมื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมก็ให้ตรวจเช็คลักษณะของการขับถ่ายอยู่เสมอ จนกว่าอาการจะทุเลา
  3. ถ้าเริ่มรับประทานอาหารบ้างแล้ว ให้งดอาหารก่อนในช่วงที่ทารกท้องเสีย เพราะอาหารบางอย่างอาจทำให้อาการหนักกว่าเดิม
  4. หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ให้รีบนำไปพบแพทย์ในทันที รวมถึงมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น มีไข้ อาเจียน เริ่มมีอาการขาดน้ำ เป็นต้น

 



เคล็ดลับป้องกันไม่ให้เด็กทารกท้องเสีย ต้องทำอย่างไร ?

หลังจากทำความเข้าใจกันแล้วว่า เมื่อทารกท้องเสียจะมีอาการอย่างไร พร้อมกับแนะนำวิธีการดูแลเบื้องต้น ต่อมาเราก็จะมาแก้ไขปัญหากันที่ต้นเหตุ ด้วยการเรียนรู้วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องเสียในทารก ซึ่งมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากดังต่อไปนี้

หากท้องเสียเกิน 24 ชั่วโมง ต้องรีบนำส่งแพทย์

รักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด

เนื่องจากภูมิคุ้มกันของทารกยังน้อยเกินกว่าจะจัดการกับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังในเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ขวดนม ของเล่น ภาชนะอาหาร และ สิ่งรอบข้างที่อาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ “มือของทารก” ที่มักจะไปสัมผัสกับเชื้อโรคแล้วนำมาเข้าปาก ต้องใส่ใจส่วนนี้เป็นพิเศษ

รับวัคซีนสำคัญให้ครบตามกำหนด

ในทารกจะมีการกำหนดห้วงเวลาในการฉีดวัคซีนเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งจะมี “วัคซีนหลัก” ที่จำเป็นต้องฉีดให้ครบ และที่ขาดไม่ได้คือ “วัคซีนเสริม” อย่าง “วัคซีนโรต้า” ที่สามารถป้องกันไม่ให้ทารกท้องเสีย ไม่ให้อาการหนักจนเกิดอันตราย เริ่มฉีดได้ตั้งแต่ทารก 2 เดือนเป็นต้นไป

 



บทส่งท้าย

ในบางครั้งทารกท้องเสีย ก็มีอาการไม่ได้ชัดเจนมากนัก คุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจในทารกช่วงขวบปีแรกเป็นพิเศษ และอย่าลืมนำเคล็ดลับดี ๆ ที่เรานำมาฝากไปใช้ ที่สำคัญต้องเน้นอีกครั้งคือเรื่องของ “ความสะอาด” หากละเลยเพียงนิดเดียวอาการท้องเสียถามหาลูกน้อยของคุณแน่นอน ขอแถมอีกสักนิดสำหรับเคล็ดลับง่าย ๆ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันอย่าง “นมแม่” เพราะมีแนวโน้มว่า ทารกที่ดื่มนมแม่จะมีความเสี่ยงท้องเสียได้น้อยกว่าการให้นมเสริมอื่นๆ

เนื้อหาอื่นๆ ที่คุณน่าจะสนใจ
ทารกร้องไห้ นอนไม่หลับ
แม่เหนื่อยมากเมื่อ ทารกร้องไห้ ไม่ยอมนอนสักที แก้ยังไงดี
สรุปสาเหตุทารกร้องไห้ไม่ยอมนอน เพราะอะไร ส่งผลต่อพัฒนาการไหม และวิธีแก้ไข
อ่านต่อคลิก
ทารกท้องผูก แก้ปัญหาอย่างไรให้ลูกสบายท้อง
อาการของทารกท้องผูก ลักษณะเป็นยังไง อันตรายไหม และวิธีป้องกัน
อ่านต่อคลิก
อาการของเด็กทารกหายใจแรง ติดขัด หายใจไม่สะดวก
ทารกหายใจแรง เสียงดัง แบบนี้เป็นอันตรายไหม?
เข้าใจสาเหตุที่ทารกหายใจแรง สังเกตอาการอย่างไร อันตรายไหม ดูแลยังไง
อ่านต่อคลิก